วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

[ Review ] : The Croods ( ตำนานมนุษย์ยุคหินผจญภัย )

The Croods 



**** ถ้าไม่อยากอ่านคำบรรยายหรือบทความต่างๆเพราะกลัวว่าจะดูหนังไม่สนุก ก็สามารถเลื่อนลงไปดูคำวิจารณ์ภาพยนตร์และตัวอย่างภาพยนตร์ข้างล่างแทนได้เลย ****

เรื่องย่อของการผจญภัย

     การใช้ชีวิตให้อยู่รอดได้ในสิ่งแวดล้อมที่โหดร้ายนั้นจำเป็นต้องทำตามกฎเเละเงื่อนไขของกรั๊ก หัวหน้าครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของตระกูล " ครู้ดส์ " โดยกฎเหล็กที่ทุกคนจำเป็นต้องทำตามนั่นก็คือห้ามออกนอก " ถ่ำ " แต่ทว่าอี๊ป ลูกสาวคนโตของเขาไม่ชอบการอาศัยอยู่ในถ่ำเลยได้ทำการฝ่าฝืนกฎ เหตุนี้เลยทำให้เรื่องราวการผจญภัยพร้อมกับความสับสนวุ่นวายชวนสนุกสนานจึงเกิดขึ้น ตระกูล ครู้ดส์ จะอยู่รอดต่อไปได้หรือไม่ ก็ขอให้เราไปรับชมต่อในภาพยนตร์ได้เลย


Character ( แนะนำตัวละคร )

     ตัวละครในเรื่อง The Croods นั้นจะมีคาแรคเตอร์เฉพาะตัวเเละตัวละครเเต่ละตัวก็จะมีความสามารถเเละทักษะพิเศษที่แตกต่างกันออกไปแต่มันก็สามารถเข้ากันได้อย่างลงตัวเช่นกัน ซึ่งจุดนี้นี่เองที่ทำให้เนื้อเรื่องดูมีสีสันมากขึ้น เรามาทำความรู้จักครอบครัว The Croods กันเลยดีกว่า!!!

1.Grug ( คุณพ่อจอมพลัง ) กรั๊กนั้นจัดได้ว่าเป็นตัวเอกของเรื่องเลยก็ว่าได้ กรั๊กทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ( หรือพ่อนั้นเอง ) มีลักษณะรูปร่างที่ใหญ่มาก เช่นเดียวกันก็มีพละำกำลังที่มากมายพอที่จะดูเเลครอบครัวของเขาได้เป็นอย่างดี กรั๊กมีลักษณะนิสัยคือ ดื้อ หัวรั้น ไม่ยอมฟังใคร เอาแต่ใจตัวเอง เเละเชื่อในกฎการอยู่รอดของตนเอง แต่เขาก็รักครอบครัวของเขามาก


2.Ugga ( คุณแม่ผู้เเสนดี ) อุงก้านั้นทำหน้าที่เป็นแม่บ้านคอยดูแลพวกลูกๆเเละครอบครัว มีลักษณะรูปร่างค่อนข้างจะอวบเเต่ไม่ถึงกับอ้วน อุงก้ามีลักษณะนิสัยคือ เป็นคนร่าเริ่งเเจ่มใส รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เป็นผู้ให้กำลังใจที่ดีเเก่คนในครอบครัว ทำตามสิ่งที่คิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้ รักครอบครัวเเละกรั๊กมาก


3.Eep ( ลูกสาวคนโตผู้อยากรู้อยากเห็น ) อี๊ปเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลครู้ดส์และถือว่าเป็นเธอนางเอกของเรื่องนี้เลย ลักษณะรูปร่างสูงใหญ่ถือว่าหุ่นดี ( รึเปล่า? ) ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากหนังเสือเเละมีพละกำลังใกล้เคียงกับกรั๊กพ่อของเธอ อีกทั้งยังมีความว่องไวในการเคลื่อนไหว มีทักษะในด้านการปีนภูเขา อีกทั้งยังมีไหวพริบที่ดีอีกด้วย ลักษณะนิสัยของอี๊ป จะเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นในทุกๆเรื่อง ไม่ชอบอาศัยอยู่ในถ่ำ รักอิสระเเละรักพ่อของเธอมาก


4.Thunk ( ลูกชายจอมขี้กลัว ) ธั๊งค์เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลครู้ดส์ มีลักษณะรูปร่างที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ ธั๊งค์มีลักษณะนิสัยคือ เป็นคนขี้กลัว ขาดความกล้า แต่ก็เป็นคนที่ร่าเริ่งเเจ่มใสมีึจิตใจที่อ่อนโยน ซึ่งตรงข้ามกับรูปลักษณ์ภายนอกทั้งสิ้น


5.Sandy ( ทารกมหาประลัย ) เเซนดี้เป็นลูกคนสุดท้องของตระกูลครู้ดส์ มีลักษณะรูปร่าง ตัวเล็กที่สุดในตระกูลเเละใช้ตะขาบในการรัดผมของเธอ เเต่อย่าเห็นว่าตัวเล็กเเล้วจะทำอะไรได้นะ เพราะว่าเเซนดี้เธอมีฟันเป็นอาวุธในการล่าสัตว์อีกทั้งยังวิ่งไวที่สุดในตระกูลครู้ดส์อีกด้วย ลักษณะนิสัยของเเซนดี้นั้น เธอเป็นคนที่บ้าๆบอๆ ไม่ค่อยฟังใคร แต่จะชอบฟังนิทานมากๆ 


6.Gran ( อาม่าจอมอึด ) กรานหรือในเรื่องเรียกว่า อาม่า ( ถ้าดูพากย์ไทยนะ ) อาม่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุมากที่สุดในตระกูลครู้ดส์ มีลักษณะรูปร่าง ผอมแห้งซีดเซียวเเละเหลือฟันเพียงซีักเดียว ตรงกันข้ามกัน เธอมีความอึดและถึกที่สุดในตระกูลเชียวนะ อาม่าใส่ชุดคลุมที่เป็นหนังของจระเข้ ( หรือไดโนเสาร์ไม่เเน่ใจเหมือนกัน อิอิ ^0^ ) อาม่ามีลักษณะนิสัยที่ มีอารมณ์ขันตามภาษาคนแก่เเละยังมีนิสัยที่ร่าเริงอีกด้วย 


7.Guy ( ชายผู้ล้ำสมัย ) กายเป็นผู้ชายที่มาจากตระกูลมนุษย์ยุคหินอีกตระกูลนึง เขาผู้นี้คือพระเอกของเรื่อง กายมีลักษณะรูปร่างที่ ผอมบาง ไม่ค่อยมีเเรงหรือพละกำลัง แต่เขามีสิ่งที่ดียิ่งกว่านั้นก็คือ ความคิดและเขาชอบสร้างสิ่งประดิษใหม่ๆ กายมีลักษณะนิสัยคือ เป็นคนค่อนข้างมีความกล้า เป็นผู้นำที่ดี ทำตามความเชื่อมั่นของตนเอง มีความคิดแปลกใหม่ มีจินตนาการที่กว้างไกล เเละชอบช่วยเหลือผู้อื่น


8.ฺำBelt ( เจ้าจ๋อคู่หูคู่ใจ ) เบลต์เป็นลิงที่เป็นสัตว์เลี้ยงของกาย หรือเรียกอีกชื่อได้ว่าเป็นคู่หูของกายนั่นเอง ลักษณะรูปร่างของเบลต์ จะเป็นลิงจ๋อสีน้ำตาลอมม่วงตัวเล็กๆ มีเเขนที่ยาวเอาไว้ใช้เป็นเข็มขัดรัดกางเกงของกาย เบลต์มีลักษณะนิสัย น่ารักกวนๆ ชอบทำท่าทางเลียนแบบมนุษย์ คอยช่วยเหลือกายตลอดเวลา


9.Douglas ( จระเข้หมาป่าเเสนรู้ ) ดั๊กราสเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในช่องว่างระหว่างภูเขาไฟ มีลักษณะรูปร่าง มีปากคล้ายกับจระเข้เเละมีลำตัวเหมือนหมาป่า ( ข้อมูลที่เหลือขอเก็บไว้เป็นปริศนาเพราะ
อยากให้ไปดูกันเองนะครับ บอกหมดเดี๋ยวไม่สนุก ^0^ )


10.Chunky ( แมวน้อยผู้น่ารัก ) ชั๊งค์กี้เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าชื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้และสิ่งเเวดล้อมที่สวยงาม ลักษณะรูปร่างของชั๊งค์กี้ มีรูปร่างใหญ่โต มีขนที่หนานุ่ม สีขนยังคล้ายกับสีของนกเเก้วมาคอร์และมีเขี้ยวที่ยาวใช้ในการฉีกเนื้อล่าเหยื่อ ( ขอไม่เปิดเผยข้อมูลไปมากกว่านี้นะครับเพราะอยากให้ไปดูต่อด้วยตัวเองจริงๆ 555+ ) 


ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง The Croods

ตัวอย่างที่ #1


ตัวอย่างที่ #2

                              
ตัวอย่างที่ #3


ช่วงวิจารณ์หนัง

     เมื่อวันหยุดสักวันหนึ่งผมได้ไปรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้มา  แต่ก่อนไปดูตามภาษาของคนที่กลัวไม่คุ้มค่าที่จะเสียเงิน ผมก็ได้กดเข้าไปดูคะเเนนโหวตของเว็บต่างๆซึ่งเว็บเหล่านั้นก็ได้ให้คะเเนนของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างจะมากพอสมควรอยู่และเป็นเรื่องจากผู้สร้าง Madagascar ในเครือ DreamWorks Animation ผมจึงตัดสินใจไปดูหนังเรื่องนี้ 
    หนังเรื่องนี้เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับมนุษย์ยุคหินหรือพวกมนุษย์ถ่ำที่ดำรงชีวิตเพื่อความอยู่รอดด้วยวิธีต่างๆ ผมว่าเรื่องนี้สร้างท่าทางเเละการเคลื่อนไหวของตัวละครได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการคลาน การกระโดด หรือการวิ่งไล่ล่า มันทำให้เรารู้สึกว่าพวกนี้เป็นมนุษย์ยุคหินจริงๆ การเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครก็ทำได้ดีมากเช่นกันไม่ว่าจะเป็น ฉากดราม่า ตลกน่ารัก หรือว่าฉากบู้ ผมว่าเขาทำออกมาได้ดีทีเดียว อีกอย่างภาพกราฟฟิคค่อนข้างจะสวยมาก การดำเนินเรื่องก็ทำออกมาได้ดี โดยในเรื่องจะมีการแฝงเเง่คิดหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความคิด ครอบครัว มิตรภาพ เรื่องสังคม เรื่องความฝัน เรื่องความเชื่อ ผมว่ามันเป็นการเปิดให้เรามองหลายๆสิ่งในมุมมองใหม่ๆเเละเรื่องนี้ก็ยังสามารถรับชมได้ทุกเพศทุกวัยอีกด้วย ซึ่งผมก็บ่นกับตัวเองตลอดในหลายฉากๆว่า " เฮ้ยเเมร่งเจ๋งหว่ะ "
     เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้คะเเนนมากเเละผมก็อยากให้ทุกคนได้ไปดูครับ สุดยอดจริงๆ คุ้มกับเวลาเเล้วก็ทรัพยากรกระเป๋ามาก ผมให้คะเเนนเรื่องนี้ 5 ดาว เต็ม 5 เลยครับ


ปล.ผมเพิ่งรีวิวหนังเป็นเรื่องแรกยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ มีคำแนะนำในการวิจารณ์หนังอะไรดีๆก็มาบอกกันได้นะครับหรือถ้าจะติชมอะไรก็สามารถใส่ลงตรงช่องแสดงความคิดเห็นได้เลยครับ ผมยินดีจะนำความคิดเห็นของทุกท่านไปปรับปรุงให้ดีขึ้น ใครที่ดูหนังอะไรดีๆมาก็สามารถมาเเนะนำกันได้เน้อ ขอขอบคุณทุกท่านที่รับชมครับ


ขอขอบคุณข้อมูลต่างๆ
Credit :: ภาพยนตร์ดีๆจากค่าย DreamWorks Animation
Credit :: ข้อมูลเรตติ้งหนังจาก เว็บ imdb เเละ เว็บ MThai



วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

การเลือกใช้ฟิล์มสำหรับกล้องโลโม่ ^0^

ฟิล์มกล้องโลโม่
     
     สำหรับฟิล์มที่ใช้กับกล้องโลโม่ต้องบอกเลยว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่เเพ้ตัวกล้องเเต่อย่างใด เพราะฟิล์มนั้นเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดโทนสีของภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้แสดงถึงบรรยากาศเเละเรื่องราวที่ผู้ถ่ายต้องการจะสื่อในขณะนั้น โดยตัวฟิล์มก็ยังบ่งบอกถึงความคลาสสิคในตัวมันเเละมันยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันคนบางส่วนอาจหลงลืมมันไปเเล้วก็ตาม


ขนาดของฟิล์ม

     ฟิล์มขนาด 35 mm เป็นฟิล์มที่เรียกได้ว่ามีขนาดมาตรฐานนั้นเองซึ่งจะใช้กับกล้องฟิล์มทั่วไป โดยฟิล์มขนาด 35 mm มีขายตามร้านล้างรูปต่่างๆ รวมถึง7-11ด้วยเช่นกัน ภาพที่ได้ออกมาจากการถ่ายด้วยฟิล์มชนิดนี้ จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า


     ฟิล์มขนาด 120 mm เป็นฟิล์มที่มีขนาดใหญ่และสามารถใช้ได้กับกล้อง Holga, Diana เพราะกล้องรุ่นนี้มีพื้นที่บรรจุที่มีขนาดใหญ่พอกับฟิล์มชนิดนี้ แต่ทว่ากล้องรุ่นนี้ก็ยังคงสามารถใช้งานร่วมกับฟิล์มขนาด 35 mm ได้เช่นกัน สำหรับฟิล์มขนาด 120 mm นี้ภาพที่ถ่ายออกมาจะเป็นรูปสี่เหลี่มจัตตุรัสเท่่านั้น


ชนิดของฟิล์มโดยแบ่งตามลักษณะการใช้งาน

     ฟิล์มเนกาทีฟ ( Negative Film หรือ Print Film ) ฟิล์มเหล่านี้เป็นฟิล์มที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้หรือพูดง่ายๆก็คือเป็นฟิล์มทั่วไปที่เราสามารถเห็นได้บ่อยๆ ยี่ห้อของฟิล์มชนิดนี้ก็จะมี อาทิเช่น Fuji, Kodak, Konica ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านล้างรูปเเละ7-11 ฟิล์มเหล่านี้เมื่อล้างออกมาจะเป็นม้วนฟิล์มสีดำๆไม่สามารถเห็นสีจริงของรูปได้จนกว่าเราจะได้ทำการอัดรูป โดยน้ำยาที่ใช้ล้างฟิล์มชนิดนี้คือน้ำยา C-41 ซึ่งภาพที่ๆได้ออกมานั้นจะมีลักษณะของสีที่ดูตุ่นๆ


     ฟิล์มสไลด์ ( Slide Film หรือ Color Reversal Film ) ฟิล์มชนิดนี้เป็นฟิล์มที่มีขนาดทั้ง 35 และ 120 mm โดยฟิล์มชนิดสไลด์นี้เป็นฟิล์มที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมาถ่ายภาพโลโม่มากที่สุด เนื่องจากภาพที่ได้ออกมานั้นมีโทนสีที่จัดจ้าน สวยงาม สดใสเเละเป็นที่ถูกใจของชาวโลโม่หลายคน สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายฟิล์มทั่วไป ฟิล์มชนิดนี้เมื่อล้างออกมาจะได้ม้วนฟิล์มโปร่งแสงเเละสามารถเห็นสีจริงของรูปได้เลย ดังนั้นฟิล์มชนิดนี้จึงสามารถเอาไปฉายเป็นแผ่นสไลด์บนเครื่องโปรเจคเตอร์ได้ โดยน้ำยาที่ใช้ล้างฟิล์มชนิดนี้คือน้ำยา E-6 ยี่ห้อของฟิล์มสไลด์ที่นิยมก็จะเป็น Kodak รุ่น Slide 100 เพราะเมื่อนำฟิล์มชนิดนี้ไปถ่ายในสถานที่ที่มีแสงแดดจัดๆ จะทำให้สีของภาพที่ได้ออกมานั้นเป็นสีที่สดใส จัดจ้าน ชัดเจนเช่นเดียวกันด้วย


     ฟิล์มขาว-ดำ ( Black And White Film ) ฟิล์มชนิดนี้คงไม่ต้องบอกสรรพคุณอะไรมากมาย ซึ่งภาพที่ถ่ายออกมาได้จะเป็นภาพที่มีเเค่สีขาวกับดำเท่านั้น


ค่า ISO ( ค่าความไวแสง ) ของฟิล์ม

     ฟิล์มแต่ละชนิดยังสามารถแบ่งค่า ISO ( ค่าความไวแสง) ได้อีก ซึ่งถ้าฟิล์มนั้นมีค่า ISO ที่สูงยิ่งทำให้เราสามารถถ่ายภาพในที่มืดหรือในที่ที่มีเเสดงเเดดน้อยได้ดียิ่งขึ้นเเละชัดเจนยิ่งขึ้น



     นักถ่ายภาพโลโม่บางคนนิยมใช้ฟิล์มที่หมดอายุมาใช้ในการถ่ายภาพ อันเนื่องมาจากฟิล์มที่หมดอายุมีราคาที่ถูกและจะถูกลงเรื่อยๆตามจำนวนปีที่หมดอายุ ฟิล์มเหล่านี้หาได้ยากในปัจจุบัน อาจพบได้ตามร้านในต่างจังหวัด หรือร้านขายฟิล์มบางร้าน ซึ่งเดี๋ยวนี้อาจไม่มีเหลือเเล้ว



วิธีการเก็บรักษาฟิล์ม

     สามารถทำได้โดยการนำม้วนฟิล์มของเรานั้นไปเก็บไว้ในตู้เย็นในส่วนที่เป็นช่องแช่ผักเเละผลไม้ โดยการทำเช่นนี้จะทำให้เราสามารถเก็บฟิล์มไว้ได้นานถึง 10 ปี เลยทีเดียวและทำให้คุณภาพของฟิล์มลดลงไปไม่เร็วมากนัก ซึ่งถ้าเราปล่อยมันทิ้งไว้ข้างนอกจะทำให้อายุการใช้งานของมันสั้นลงได้อย่่างรวดเร็ว


เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ XPRO คือ???

     หลายคนอาจจะยังไม่ทราบเรื่องที่มาของภาพโลโม่้ที่มีสีจัดๆเหล่านั้นว่าเป็นมาอย่างไร แท้จริงเเล้วภาพเหล่านั้นเกิดจากการล้างฟิล์มแบบ Cross Processed หรือ เรียกสั้นๆว่า XPRO ซึ่งก็คือการนำฟิล์มสไลด์มาล้างในน้ำยาฟิล์ม Negative หรือก็คือน้ำยา C-41 ซึ่งเป็นน้ำยาที่ผิดชนิดนั่นเอง ผลที่ได้จากการล้างนั้นจึงได้เป็นสีที่เกิดความผิดเพี้ยนไปซึ่งกลายเป็นความแตกต่างที่หลายคนชื่นชอบโดยเฉพาะคนที่ใช้กล้องโลโม่


     การถ่ายภาพในแบบ XPRO นั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เหตุผลคือเราไม่มีทางรู้ได้เเน่ชัดว่าสีของภาพจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งนี้ก็เป็นเสน่ห์ของการถ่ายภาพโลโม่ ที่จริงเเล้วมีหลายอย่างที่ส่งผลต่อสีของการถ่ายภาพแบบ XPRO ซึ่งได้เเก่ อุณหภูมิของตอนที่ถ่าย วิธีที่ร้านเเต่ละร้านล้างฟิล์ม รวมไปถึงตอนที่ถ่ายภาพมานั้นได้ถ่ายมาแบบ Underexposure ( แสงน้อยไป ) หรือ Overexposure ( แสงมากไป ) แต่สิ่งที่ส่งผลต่อภาพมากที่สุดน่าจะเป็นชนิดของฟิล์มสไลด์ที่ใช้นั่นเอง โดยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดซึ่งจะเป็นส่วนที่แสดงออกถึงโทนของสีได้อย่างชัดเจน


ปล.หากข้อมูลผิดพลาดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ( สามารถติชมหรือให้ความเห็นไว้ใต้กระทู้ได้เลยครับ ) คือผมก็ยังเป็นมือสมัครเล่นบล็อกอยู่ครับ ^0^ ผมจะพยายามพัฒนาการเขียนของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นครับ ไว้โอกาสหน้าจะนำข้อมูลใหม่ๆมาเเชร์กันอีกครับ หวังข้อมูลเหล่านี้คงเป็นประโยชน์ต่อพี่ๆน้องๆเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย ขอบคุณทุกท่านที่รับชมมากๆครับ


ขอขอบคุณข้อมูลต่างๆ
Credit :: ร้านกล้องโลโม่.com 
Credit :: คุณ Aria ผู้เขียนคอลัมน์ ชาร์ทสีฟิล์ม Cross Processed ( Xpro ) จาก นิตยสาร go play : Art of life Vol.2 No.19 November 2010 หน้า 65





     


วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

เรามาทำความรู้จักเจ้ากล้องโลโม่กันเถอะ!!!

LOMO ( Leningrad Optical Machinery Organization ) หรือ Lomography

     เป็นกล้องที่ใช้พลาสติกมาเป็นวัสดุในการทำซะส่วนใหญ่ ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำโลหะมาใช้เป็นวัสดุด้วยเพื่อเพิ่มความคงทน โดยเจ้ากล้องโลโม่นี้เป็นกล้องที่ใช้ฟิล์มในการถ่าย โดยเวลาที่เราถ่ายภาพนั้นเราจะไม่รู้ว่าภาพที่ได้ออกมานั้นจะเป็นอย่างไร เพียงเเค่เรามีความสุขที่ได้ถ่ายไปเรื่อยๆเเละได้สนุกที่จะลุ้นว่าภาพที่เราถ่ายนั้นจะออกมาเป็นอย่างไรเมื่อตอนเราอัดรูป นี้เเหละคือเสน่ห์ของเจ้าโลโม่


     กระแสนิยมในเรื่องของการถ่ายภาพเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในสังคมยุคปัจจุบันเเละยุคอดีตในช่วงเวลา10ปีให้หลังมานี้ โดยเฉาะการถ่ายภาพโดยใช้กล้องโลโม่ก็เป็นสิ่งที่แพร่ระบาดไปทั่วเมืองไทยด้วยเช่นกัน อันเนื่องจากตัวกล้องโลโม่เป็นกล้องที่มีราคาที่เรียกได้ว่าไม่เเพงมากเมื่อเทียบกับกล้องทั่วไป ซึ่งเป็นกล้องถ่ายรูปที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น โดยราคาจะอยู่ประมาณตัวละไม่กี่พันบาทไปจนถึงหลักหมื่น


เสน่ห์ของกล้องโลโม่???

     เสน่ห์ของกล้องโลโม่นั้นจะอยู่ที่ขนาดที่เล็กกระทัดรัดสะดวกในการพกพา ราคาที่ถูก ภาพที่ได้ออกมานั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยสีที่สด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกลิ่นอายบรรยากาศของสถานที่นั้นๆที่อยู่ในภาพ มีความเป็นร่วมสมัยอันเนื่องจากเป็นกล้องที่ใช้ฟิล์มเเละภาพที่ได้ออกมากนั้นมีความเป็นวินเทจผสมผสานกับโมเดิร์นได้อย่างลงตัว โดยตัวกล้องโลโม่นั้นจะมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยในการถ่ายภาพเพื่อถ่ายทอดมุมมองต่างๆออกมาเเละอีกทั้งยังมีเทคนิคต่างๆให้เลือกเล่นอีกมากมาย โดยปัจจุบันกล้องโลโม่นั้นมีหลายยี่ห้อด้วยกัน อาทิเช่น Holga, Lomo LC ARL, Multi Pinhole Operator, Diana, Oktomat, Lomo Ringflash, Lomo Yasuhara T 981 เป็นต้น

                              

ประวัติเเละความเป็นมาของกล้องโลโม่

     เริ่มแรกนั้นกล้ิองโลโม่ถูกใช้งานในหน่วยงานสายลับของกองทัพรัสเซีย เป็นหน่วยงานที่มีชื่อเรียกว่า LOMO ( Leningrad Optical Machinery Organization ) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ผลิตเลนส์ที่ใช้ในกล้องโทรทัศน์ของกองทัพ ในช่วงเวลาต่อมากระทรวงความมั่นคงเเละอุตสาหกรรมของสหภาพโซเวียตได้สั่งให้หน่วย LOMO ผลิตเลนส์เพื่อสร้างกล้องคอมเเพคท์เลียนแบบกล้องของญี่ปุ่น เพื่อเอาไปแจกให้ทหารรัสเซียใช้ในการบันถึกภาพสถานการณ์ต่างๆ โดยมีสโลเเกนว่า "คอมมิวนิสต์อันทรงเกียรติทุกคนควรมีกล้องตัวนี้เป็นของตัวเอง" โดยกล้องตัวนั้นมีชื่อว่า Lomo Kompakt Automat : LC-A และกล้องเหล่านี้ก็ได้ถูกบันทึกภาพวาระสุดท้ายแห่งโลกคอมมิวนิสต์

     
     ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 Matthias Fiegl และ Wolfgang Stranzinger ผู้บริหารบริษัท Lomographische AG ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก แต่ดันลืมนำกล้องถ่ายรูปติดตัวไปด้วย พวกเขาจึงได้ไปหาซื้อกล้องที่นั้น ซึ่งทำให้พวกเขาได้รู้จักกับกล้อง Lomo Kompakt Automat : LC-A โดยบังเอิญ หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้นำกล้องนี้ไปถ่ายภาพตามที่ต่างๆเเละได้ล้างรูปภาพจากร้านล้างรูปธรรมดา ปรากฏว่าภาพที่ได้ออกมาเป็นภาพที่มีสีสันจัดจ้านดูผิดเพี้ยนแต่ก็มีความสวยงามในอีกรูปแบบหนึ่งจนทำให้พวกเขาหลงใหลกับภาพเหล่านั้น เเละได้ค้นพบว่า กล้องตัวนี้ให้ภาพที่แปลกฉีกออกไปจากกฎเกณฑ์เดิมๆ เเละในปี พ.ศ. 2535 Fiegl และเพื่อนได้จัดตั้งบริษัท Lomographische AG ขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจากนั้นไม่นานกระเเสความนิยมในกล้องโลโม่เเละภาพเเนวโลโม่ก็ได้กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว


เก็บตกข้อมูลจ้า 

     LOMO เป็นเครื่องหมายการค้าของ "Lomographische AG" ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพ โดยได้ซื้อลิขสิทธิ์การใช้ชื่อมาจาก "Lomo PLC" ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเลนส์ของรัสเซีย


ปล.ข้อมูลต่างๆที่ได้มานั้นเกิดจากการรวบรวมจากบล็อกต่างๆเเละนิตยสาร go play : Art of life Vol.2 No.19 November 2010 ซึ่งโดยส่วนตัวผมยังไม่ได้มีโอกาสได้สัมผัสกับเจ้ากล้องโลโม่จริงๆจังๆสักที  อันเนื่องจากกำลังทรัพย์ไม่เพียงพอ 555+ ( กำลังเก็บตังอยู่ครับ อิอิ ^0^ ) ก็เลยทำได้เเค่เพียงศึกษาหาข้อมูลเเค่นั้นครับ ผมไม่ได้มีเจตนาคัดลอกเเต่อย่างใดเพียงเเค่ อยากบันทึกข้อมูลต่างๆไว้เพื่อเก็บไว้ดูเอง ( เผื่อลืมครับผมเป็นคนขี้ลืม 555+ ) เเละเพื่อแบ่งปัญข้อมูลที่เป็นประโยชน์เเก่เพื่อนๆเท่านั้นครับ

ขอขอบคุณข้อมูลต่างๆ
Credit :: ร้านกล้องโลโม่.com 
Credit :: คุณ ศุภฤกษ์ ภัทราสิทธิโชค ( แมค ) ผู้เขียนคอลัมน์ Lom(O) : Photograph Identities Style จาก นิตยสาร go play : Art of life Vol.2 No.19 November 2010 หน้า 67